เกษตรอำเภอทุ่งหว้า ส่งเสริมการปลูกขมิ้นชัน–ไพล พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูป สร้างรายได้เสริมแก่ชุมชน

วันที่ 5 สิงหาคม 2568 นางสาวตุลาภรณ์ เส็นดาโอ๊ะ เกษตรอำเภอทุ่งหว้า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุ่งหว้า ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพทางเลือกให้แก่เกษตรกร ด้วยแนวคิด “ปลูกพืชสมุนไพร สร้างมูลค่า สร้างอาชีพ” โดยร่วมกับ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรทักษอร บ้านท่าศิลา หมู่ที่ 5 ตำบลนาทอน ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรท้องถิ่น ได้แก่ ขมิ้นชันพันธุ์แดงสยาม และ ไพล ซึ่งเป็นพืชที่คนไทยคุ้นเคยและมีคุณค่าทางยาอย่างมาก กิจกรรมนี้ได้เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ของสมาชิกกลุ่มที่ต้องการมีรายได้เสริมจากพื้นที่ว่างในบ้าน และมีความเชื่อมั่นว่า “สมุนไพรไทย ถ้าเราปลูกเป็น แปรรูปเป็น ก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้อย่างยั่งยืน”ปีแรกของการปลูก แม้จะต้องเผชิญปัญหาโรคพืชและผลผลิตเสียหาย แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้ศึกษาวิธีการปลูกและดูแลอย่างจริงจัง โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอทุ่งหว้าและได้มีโอกาสเดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง นำความรู้กลับมาปรับใช้จนเกิดผลผลิตที่มีคุณภาพในปีถัดมา สิ่งที่น่าชื่นชมคือ การนำนวัตกรรม “ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์” มาช่วยอบแห้งสมุนไพรแทนการตากแดดแบบเดิม ช่วยลดความชื้น ยืดอายุเก็บรักษา และรักษาสารสำคัญในสมุนไพรไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งยังเป็นการใช้พลังงานสะอาด ลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย วิธีปลูกของกลุ่มกลุ่มยังใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่การเตรียมดินให้ร่วนซุย ใช้วัสดุธรรมชาติเช่น แกลบดิบและมูลสัตว์ ปลูกในกระสอบ ปลูกในตะกร้า ปลูกลงแปลงและพื้นที่ว่างบริเวณบ้าน ใช้หัวพันธุ์คุณภาพสูง ผ่านการแช่ในสารป้องกันเชื้อราและเพลี้ยอย่างถูกวิธี รวมถึงการดูแลด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ไม่พึ่งพาสารเคมี ซึ่งปกติจะมีการปลูก: ปลูกช่วงต้นฤดูฝน (เมษายน–พฤษภาคม) เพื่อให้ได้รับน้ำฝนเต็มที่ 4 5 เดือน และเริ่มงอกภายใน 30 70 วันหลังปลูก โดยมีการเตรียมดินปลูกที่เหมาะสมโดยใช้วัสดุปลูก ได้แก่ แกลบดิบ มูลสัตว์ ซึ่งมีปลูกในกระสอบ ในตะกร้าพลาสติก และในลงแปลง ที่มีดินร่วนซุย และตากดิน 1 2 สัปดาห์ก่อน เพื่อกำจัดแมลงและโรค เลือกใช้ หัวพันธุ์ที่อายุ 11 12 เดือน หรือท่อนแง่งที่มีน้ำหนัก 15 30 กรัม โดยมีตา 1 2 ตา ใช้หัวแม่ขนาด 15 50 กรัม จะให้ผลผลิตสูงกลุ่มยังมุ่งมั่นพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการ ขอรับรองมาตรฐาน GAP ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรผ่านการตรวจสอบแล้วถึง 10 ด้านการตลาด กลุ่มวิสาหกิจฯ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ขายผลผลิตดิบ แต่ พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร เช่น ผงขมิ้นชัน น้ำมันเหลือง สเปรย์กระดูกไก่ดำ ครีมหาจักร ฯลฯ

ทางกลุ่มมีจำหน่ายผ่านงานแสดงสินค้าและช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook และ Line Official ที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ โดยมีแนวคิดว่า“ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ แม้มีพื้นที่น้อย ถ้ามีใจและความรู้” การปลูกสมุนไพรเป็นต้นแบบให้กับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำเกษตรเล็ก ๆ ที่บ้าน หรือผู้ที่กำลังมองหาอาชีพเสริมที่ใช้ต้นทุนต่ำ และใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า

Leave a Reply

Your email address will not be published.